นิโรธ คือความดับทุกข์ ได้แก่รู้ในกิเลสทั้งหลายเหล่านี้ตามความเป็นจริง จึงว่าสัจฉิกิริยา เราได้กำหนดรู้ในความดับทุกข์นั้น คือเรารู้กิเลส กิเลสมันก็หายไป
เหมือนกันกับเราเปิดไฟฟ้าขึ้นมา พอดวงไฟสว่างความมืดทั้งหลายก็หายไป
นิโรธ การทำให้รู้แจ้งก็เช่นเดียวกัน เมื่อเรากำหนดรู้ในกิเลสแล้ว กิเลสทั้งหลายก็จะหายไป เพราะกิเลสเท่ากับว่าเป็นเงามืดเฉยๆ มันไม่ได้เป็นตนเป็นตัว แต่ว่ามันมามืดอยู่ในจิต เมื่อมันมืดอยู่ในจิตก็ทำให้จิตเป็นกิเลส
ถ้าเรากำหนดรู้ลงไป รู้จริง เห็นจริงขึ้นมาแล้ว สิ่งที่เราจะยึดจะถือสำคัญมั่นหมายหลงใหลมัวเมาก็จะหายไป ไม่มี
ประวัติและปฏิปทา
พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร หรือ พระอาจารย์วัน อุตฺตโม (๑๓ สิงหาคม ๒๔๖๕ - ๒๗ เมษายน ๒๕๒๓) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร นามเดิม วัน สีลารักษ์ ชาวจังหวัดสกลนคร เป็นพระวิปัสสนาจารย์สายพระธุดงคกรรมฐาน ผู้มีความสำรวมเรียบร้อยในทุกอิริยาบถ ท่านเป็นผู้สุขุมลุ่มลึก พูดน้อยแต่ทำจริง และสอนด้วยการปฏิบัติตนให้ดูเป็นตัวอย่าง เป็นที่เคารพนับถือของพระผู้ใหญ่ เพื่อนสหธรรมิก และมหาชนทั่วไป ท่านเป็นศิษย์ผู้อยู่ใกล้ชิดและอุปัฏฐากพระอาจารย์มั่น ภูริทตโต ในช่วงบั้นปลายชีวิต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร
ท่านกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ และต้องสูญเสียพ่อไปอีกคนเมื่ออายุได้ ๑๓ ปี จึงเป็นเรื่องสะเทือนใจสำหรับท่าน ทำให้ท่านคิดจะหาทางพ้นจากทุกข์ตั้งแต่นั้นมา ประกอบกับคำสั่งเสียของพ่อที่อยากให้ลูกบวช ท่านจึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ขณะอายุได้ ๑๕ ปี โดยมีพระอาจารย์วัง ฐิติสาโร เป็นผู้อบรมสั่งสอนในทางปฏิบัติ เมื่อย่างเข้าปีที่ ๕ ท่านได้กราบลาอาจารย์ไปศึกษานักธรรมที่วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร เมื่อเสร็จสิ้นจากการสอบ ท่านได้เดินทางไปที่จังหวัดอุบลราชธานีเพื่อฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล ที่วัดป่าบ้านท่าฆ้องเหล็ก อำเภอวารินชำราบ เมื่ออายุได้ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ณ พัทธสีมาวัดศรีธรรมาราม จังหวัดยโสธร โดยมีพระครูจิตตวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์
เมื่อบวชแล้ว พระอาจารย์วันกลับมาจำพรรษาแรกที่วัดป่าสุทธาวาส ซึ่งในขณะนั้นพระอาจารย์พรหม จิรปุญฺโญ เป็นผู้ปกครองดูแล จึงได้มีโอกาสฟังธรรมและอุปัฏฐากท่าน ครั้นเรียนจบนักธรรมชั้นเอกแล้ว พระอาจารย์วันก็หันมามุ่งมั่นปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง โดยเดินธุดงค์ไปฝากตัวเป็นศิษย์และได้รับการอบรมสั่งสอนโดยตรงจากพระอาจารย์มั่น ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ในช่วงนั้นท่านตั้งใจเรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติจนเกิดความปีติซาบซึ้งเป็นอย่างมาก ความเชื่อมั่นในแนวทางปฏิบัติให้ถึงมรรคถึงผลก็ทวียิ่งขึ้น เมื่อถึงกาลที่ควร จึงได้กราบลาพระอาจารย์มั่นเพื่อปลีกวิเวกไปทำความเพียรส่วนตัว การไปในครั้งนี้ท่านต้องเผชิญกับบททดสอบที่สำคัญมากมาย ทั้งอาการอาพาธอย่างหนัก และภัยจากมาตุคาม หลังจากนั้นท่านก็กลับไปอุปัฏฐากพระอาจารย์มั่นเรื่อยมาจนมรณภาพ รวมเวลาทั้งสิ้น ๕ ปี หลักจากจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนองผืออีกหนึ่งพรรษา เพื่อเป็นหลักให้กับญาติโยมที่นั่น ท่านก็ได้ออกจาริกธุดงค์ไปตามที่วิเวกต่างๆ ในการบำเพ็ญเพียรภาวนา โดยเฉพาะที่ภาคอีสานและภาคใต้
ในปี ๒๕๐๔ พระอาจารย์วันได้เริ่มมาจำพรรษาที่ถ้ำอภัยดำรงธรรม ในเขตภูผาเหล็ก อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เนื่องจากเป็นที่วิเวกเหมาะสมสำหรับบำเพ็ญสมณธรรม ซึ่งต่อมาท่านได้พัฒนาเป็นวัดกรรมฐาน และจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้เป็นส่วนใหญ่ มีประชาชนเข้าไปรับการอบรมธรรมะเป็นจำนวนมาก พระเณรและฆราวาสญาติโยมก็อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข และเจริญก้าวหน้าในธรรมภายใต้การปกครองดูแลของท่าน
ต้นปี ๒๕๒๓ พระอาจารย์วัน อุตฺตโม มรณภาพลงอย่างกะทันหันจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ขณะสิริอายุ ๕๘ ปี พรรษา ๓๗ อัฐิของท่านได้แปรเป็นพระธาตุ นับเป็นการประกาศคุณธรรมขั้นสูงสุด ควรแก่การกราบไหว้ด้วยความเคารพยิ่ง