จิตสงบ กายสงบ
จิตสบาย กายสบาย
จิตวิเวก กายวิเวก
จิตเบา กายเบา
จิตและกายต่างสงบอยู่ในตัวของตัวเอง ต่างมีหน้าที่ของตน บางเวลาเมื่อคิดค้นธรรมะ ปรากฏขึ้นแจ่มแจ้ง สงบ สว่าง
ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม (๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๔ - ๘ มกราคม ๒๕๓๘) วัดป่าสัมมานุสรณ์ อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย นามเดิม บ่อ แก้วสุวรรณ ชาวจังหวัดเลย เป็นพระมหาเถราจารย์สายวิปัสสนาธุระ ผู้บริสุทธ์บริบูรณ์แล้วด้วยธรรม เป็นศิษย์ที่สำคัญที่สุดองค์หนึ่งของพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ที่มีนิสัยโลดโผนและเด็ดเดี่ยวกล้าหาญทางด้านความเพียร มักน้อยสันโดษ และทรงพระธรรมวินัยได้อย่างงดงามที่สุด ท่านมีชื่อเสียงทางด้านอภิญญามาก สามารถแสดงธรรมโปรดมนุษย์ เทวดา พญานาค ตลอดจนสรรพสัตว์ในภพภูมิต่างๆ ได้
หลวงปู่ชอบมีความใกล้ชิดกับพระธุดงคกรรมฐานมาตั้งแต่ยังเด็ก เมื่ออายุ ๑๔ ปี ได้รับการอบรมและคอยอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์พา ศิษย์องค์หนึ่งของพระอาจารย์มั่น ได้บวชเป็นผ้าขาวถือศีล ๘ จนมีจิตใจน้อมไปสู่ทางธรรมมากยิ่งขึ้นตามลำดับ เมื่ออายุ ๑๙ ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบ้านนาแก อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พระอาจารย์พาได้พาท่านไปอยู่กับพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม ท่านได้ใช้ชีวิตเป็นสามเณรได้ ๕ พรรษา เมื่ออายุ ๒๓ ปี จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ที่วัดสร้างโคก (วัดศรีธรรมาราม) อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โดยมีพระครูวิจิตรวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ฐานสโม ผู้มีความตั้งใจมั่น”
หลวงปู่ชอบมีนิสัยฝักใฝ่ไปในทางปฏิบัติภาวนาตั้งแต่ยังเป็นสามเณร โดยที่ไม่ได้สนใจการศึกษาภาคปริยัติมากนัก ท่านมีความเพียรมั่นคงกับการบริกรรม “พุทโธ” จิตของท่านรวมลงสู่ความสงบได้ง่าย เมื่อจิตมีความละเอียด สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็ได้รู้ สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น หลวงปู่ชอบเป็นผู้ถือสันโดษ ปกติชอบอยู่องค์เดียวในที่วิเวกตามป่าตามเขา ท่านถือธุดงควัตร ๑๓ ข้อ ตั้งแต่พรรษาแรก ไม่กลัวความทุกข์ยากลำบาก เป็นผู้อยู่ง่าย มาง่าย ไปง่าย ไม่เลือกที่พักที่นอน ใช้ผ้าปูบนใบไม้ก็สามารถนอนได้ และไม่ติดในสถานที่แม้มีผู้สร้างกุฏิอย่างดีให้
ในครั้งที่จำพรรษาที่วัดป่าหนองบัวบาน จังหวัดอุดรธานี ท่านได้พบกับสหธรรมิกที่สำคัญ ๒ รูป คือ หลวงปู่ขาว อนาลโย และหลวงปู่หลุย จนฺทสาโร เมื่อทั้งสามได้ทราบข่าวว่า พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พำนักอยู่ที่บ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม จึงพากันเดินทางไปหา หลวงปู่ชอบนั้นอาสาเข้าไปกราบพระอาจารย์มั่นเป็นรูปแรก และก็ได้รับการทดสอบด้วยเสียงดุไล่ประดุจฟ้าผ่า ซึ่งท่านก็ตกใจมากและต้องถอยไปตั้งหลักที่วัดศรีวิชัย แต่พอวันถัดมาก็มีพระมาตามกลับไปหาพระอาจารย์มั่น และได้รับโอวาทสั้นๆ ว่า “ท่านเคยภาวนามาอย่างไร ก็ให้ทำต่อไปเช่นนั้น อย่าได้หยุด ธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั้น มันอยู่ที่ใจเรานี่แหละ ถ้าอยากรู้อยากเห็นธรรมเหล่านั้น ก็ให้ค้นหาเอาที่ใจของท่านเอง”
หลังจากนั้น หลวงปู่ชอบได้จาริกธุดงค์ไปตามสถานที่วิเวกต่างๆ เพื่อบำเพ็ญสมณธรรม ทั้งในภาคอีสาน ภาคกลางตอนบน และภาคเหนือ รวมทั้งในหลายพื้นที่ในประเทศพม่าด้วย ซึ่งท่านต้องเผชิญกับภยันตรายและสิ่งลี้ลับต่างๆ มากมาย ทั้งความดุร้ายของสัตว์ป่า วิญญาณมิจฉาทิฏฐิ และความลำบากในที่ทุรกันดาร แต่ด้วยอุปนิสัยเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ สติอันมั่นคง ขันติธรรม และศีลอันบริสุทธิ์ จึงทำให้ท่านเอาชนะความตายความทุกข์ยากมาได้ทุกครั้ง บางครั้งท่านได้เร่งความเพียรอย่างหนัก ถึงขนาดอดอาหาร ๑๕ วัน และอดหลับอดนอน ๑๕ คืน จึงทำให้บารมีธรรมของท่านเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนได้ดวงตาเห็นธรรม ทำลายกามราคะ และถึงที่สุดแห่งทุกข์ ตามลำดับขั้น
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เป็นพระสุปฏิปันโน เป็นที่เคารพศรัทธาของหมู่ชนอย่างแท้จริง แม้ว่าท่านจะมีชื่อเสียงจากประวัติการออกธุดงค์อันผาดโผน และความสามารถทางด้านอิทธิปาฏิหาริย์ แต่คุณงามความดีและคุณธรรมอันสูงสุดของท่านนั้นเป็นที่ยอมรับจากบรรดาคณะศิษย์และชาวพุทธทั่วไป ด้านงานทำนุบำรุงพระศาสนา ท่านได้สร้างวัดสำหรับเป็นที่ปฏิบัติภาวนาไว้มากมายถึง ๑๔ แห่ง อาทิ วัดสัมมานุสรณ์ วัดป่าโคกมน และวัดป่าฐานสโม นับว่าท่านผู้เป็นสร้างคุณูปการมากมายแก่ศาสนาพุทธและกุลบุตรลูกหลานสืบไป