รู้ธรรมเห็นธรรมนั้นต้องอาศัยจิต จิตนั้นต้องเป็นเหมือนกับคนที่เข้าไปดูสินค้าในห้างร้านนั้นๆ ต้องเป็นผู้มีตาถึงของ ถึงสินค้า ภาษาทางภาคอีสานว่า ตาถึงใจถึง
ใจฉลาดผู้ที่รู้ธรรมตามขั้นนั้นๆ ก็คือใจ ใจมีความสามารถมากน้อยเพียงไร ก็สามารถรู้ธรรมเป็นขั้นๆ ขึ้นไปได้ จนถึงธรรมชั้นสูงสุด ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนในโลก ที่เรียกว่า “วิมุตติธรรม”
นี่ก็ใจเป็นผู้สามารถรู้ด้วยการปฏิบัติ ด้วยการค้นคว้าด้วยความฉลาดของผู้ปฏิบัตินั้น ธรรมจึงปรากฏออกมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ถ้าไม่มีใจเสียอย่างเดียว ธรรมก็ไม่มีความหมายอะไรเลย ไม่ผิดอะไรกับหัวตอ
คำว่า “ศาสนธรรม” ที่แสดงออกมานั้น เป็นอาการของธรรมไม่ใช่ธรรมแท้ ธรรมแท้ต้องรู้เห็นที่จิต อยู่ที่จิตของผู้รู้
ประวัติและปฏิปทา
หลวงปู่ขาน ฐานวโร (๑๕ มิถุนายน ๒๔๗๘ - ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙) วัดป่าบ้านเหล่า (วัดวชิรทรงธรรมพัฒนา) อำเภอเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย นามเดิม ทองขาน สุขา ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นพระเถราจารย์ในภาคเหนือ ที่มีความมักน้อยสันโดษ ทรงธุดงควัตร ข้อวัตรปฏิบัติได้อย่างงดงาม ชอบบำเพ็ญสมณธรรมตามป่าเขา และมีความพากเพียรในการภาวนาอย่างที่สุด ท่านเป็นศิษย์คนสำคัญของหลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู
ท่านบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๕ ปี ที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ครั้นเมื่ออายุ ๒๒ ปี ก็ได้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ที่วัดป่าชบาวัน อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีพระครูศาสนูปกรณ์ วัดโยธานิมิต เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาว่า “ฐานวโร มีที่ตั้งอันประเสริฐ” เมื่อบวชแล้วก็ได้มาจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อชม โฆสิโก ที่วัดป่าสำโรง จังหวัดหนองบัวลำภู ตลอดไตรมาสนี้ท่านมีความพากเพียรในการศึกษาข้อวัตรปฏิบัติต่างๆ โดยสามารถท่องบทสวดมนต์ต่างๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ในขณะเดียวกันก็ฝึกฝนทำจิตภาวนาไปด้วย หลังจากออกพรรษาท่านได้เริ่มเดินธุดงค์เพื่อบำเพ็ญสมณธรรมและสะสมพละอินทรีย์อยู่ตามป่าเขา ในพรรษาที่ ๒-๓ ท่านได้กราบถวายตัวเป็นลูกศิษย์และรับการอบรมสั่งสอนธรรมจากหลวงปู่ขาว ที่วัดถ้ำกลองเพล ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี้ ท่านเพียรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างอุกฤษฏ์ หลายครั้งมีการอดอาหารและอดนอน นั่งสมาธิภาวนาหลายชั่วโมงตลอดรุ่งเป็นประจำ เมื่อมีความติดขัดในเรื่องการภาวนา หลวงปู่ขาวก็จะให้อุบายธรรมแก้ไขอยู่ตลอด ดังนั้นการปฏิบัติจึงมีแต่ความเจริญก้าวหน้าขึ้นโดยลำดับ ในพรรษาที่ ๔ ได้จำพรรษาอยู่ปฏิบัติกับพระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ที่วัดป่าแก้วชุมพล จังหวัดสกลนคร จากนั้นจึงได้จาริกธุดงค์ไปตามสถานที่วิเวกต่างๆ ในภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ
ในพรรษาที่ ๕-๖ ท่านมาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ ที่ถ้ำจันทน์ จังหวัดหนองคาย มีอยู่ช่วงหนึ่งท่านเกิดอาพาธเป็นไข้มาลาเรีย แต่ท่านก็ไม่ได้ย่อท้อหรือลดหย่อนการปฏิบัติลง ใช้ธรรมโอสถคือการทำจิตภาวนารักษาอาการไข้ด้วยความเพียรและจิตใจที่เข้มแข็ง จนหายจากอาพาธเองในที่สุด วันหนึ่งท่านเดินมาประจันหน้ากับเสือบริเวณกุฏิของหลวงปู่จวน ด้วยความตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ท่านจึงนั่งลงทำสมาธิกำหนดลมหายใจจนจิตรวม จากนั้นก็น้อมเข้ามาพิจารณาในกาย เมื่อจิตถอนออกมาก็พบว่าเวลาได้ผ่านไปหลายชั่วโมงและเสือก็ได้หายไปแล้ว เมื่ออยู่ครบสองปีท่านก็จาริกธุดงค์ต่อไป
พรรษาถัดมา ท่านมาพำนักอยู่กับหลวงปู่ลี กุสลธโร ที่ถ้ำพระนาผักหอก บ้านกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ในขณะปฏิบัติภาวนาก็ได้รับคำแนะจากหลวงปู่ลีอยู่เป็นประจำ หลวงปู่ขานท่านเร่งความเพียรอย่างเข้มข้น บากบั่นภาวนาเอาชนะกิเลสตัณหาน้อยใหญ่ด้วยสติปัญญาที่มั่นคง โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคหรือความทุกข์ยากใดๆ ทั้งสิ้น จนท้ายที่สุดท่านได้ทำลายอวิชชาความไม่รู้จริงทั้งหลายให้หมดไปจากใจได้ พบกับวิมุตติธรรมและบรมสุขที่ถ้ำพระนาผักหอก ในพรรษาที่ ๗ นี้เอง จากนั้นท่านจึงกลับไปวัดถ้ำกลองเพล เพื่อกราบเรียนถวายผลการปฏิบัติแก่หลวงปู่ขาว และอยู่ปรนนิบัติท่านอยู่ ๒ ปี ในพรรษาที่ ๑๐-๑๒ หลวงปู่ขานอยู่จำพรรษากับหลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร ที่วัดป่าชบาวัน จังหวัดหนองบัวลำภู จากนั้นจึงออกเที่ยวธุดงค์ไปทางภาคเหนือร่วมกับคณะของหลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ
ตั้งแต่พรรษาที่ ๑๓ ท่านได้สร้างวัดป่าบ้านเหล่า อำเภอเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย และอยู่จำพรรษาที่นี่ตลอดมา ท่านเป็นพระนักพัฒนา ได้เป็นผู้นำศรัทธาขยายอาณาบริเวณวัดและสร้างเสนาสนะที่จำเป็นสำหรับปฏิบัติกรรมฐาน ท่านเป็นองค์บรรยายธรรมและอบรมกรรมฐานให้แก่พุทธศาสนิกชนอย่างสม่ำเสมอ สำหรับพระเณรท่านสอนให้เป็นผู้พากเพียรในข้อวัตรปฏิบัติและการภาวนา ท่านไม่สอนด้วยวาจามากนัก แต่เน้นปฏิบัติให้ดูเป็นตัวอย่างมากกว่า จึงทำให้บริเวณวัดสะอาดสะอ้าน ลูกศิษย์ลูกหามีความสมัครสมานสามัคคี และมุ่งมั่นปฏิบัติภาวนาเพื่อธรรมอย่างแท้จริง
ในปี ๒๕๔๙ หลวงปู่ขาน ฐานวโร ได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคไตวาย รวมสิริอายุ ๗๑ ปี ๕๐ พรรษา คุณงามความดีของท่านนั้นเป็นที่ประจักษ์ จนมีผู้เคารพศรัทธามากมายทั่วประเทศ